ปัจจุบันอีเมลจะยังคงเป็นช่องทางการสื่อสารที่ให้ ROI (Return on Investment) สูงที่สุด แต่ความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยความต้องการของลูกค้าคือส่งอีเมลที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้า ในเวลาที่เหมาะสม แสดงผลได้ดีในทุกอุปกรณ์ แบรนด์ที่สามารถส่งอีเมลที่มีความเป็นส่วนตัว (Personalize) ระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่อง มักเติบโตเร็วกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ จากงานวิจัยของ McKinsey พบว่า บริษัทที่ทำ Personalization ได้ดี มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างชัดเจน

แล้วจะเปลี่ยนกลยุทธ์ทางอีเมลจากส่งเนื้อหาแบบเดียวไปหาทุกคนไปสู่ส่งอีเมลเฉพาะบุคคลโดยไม่สร้างภาระให้ทีมได้อย่างไร?

คำตอบคือคุณสามารถใช้ Taximail ร่วมกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เพื่อสร้างประสบการณ์การสื่อสารแบบ Personalize และ Cross-channel อย่างชาญฉลาดได้อัตโนมัติ

ด้วยวิธีการนี้จะช่วยคุณแปลงข้อมูลเป็นการตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ เช่น ส่งให้ใคร, พูดเรื่องอะไร, ส่งเมื่อไหร่ และเลือกช่องทางไหน (Email, SMS) เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าในจังหวะที่เหมาะสมที่สุด ด้วยการทำงานครั้งเดียว นักการตลาดสามารถสร้าง Journey อัตโนมัติ สร้างคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับแบรนด์ และปล่อยแคมเปญได้เร็วขึ้นโดยยังคงควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพได้ครบถ้วน

ด้านล่างนี้คือแนวทางการใช้ AI สำหรับส่งอีเมลและ Cross-channel Messaging ที่จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจ, ความรวดเร็ว และยอดขาย รวมทั้งชี้ให้เห็นความเสี่ยงหากยังคงใช้กระบวนการทำงานด้วยวิธี Manual แบบเดิม ๆ

 

ทำไมการสื่อสารแบบส่วนบุคคลด้วยความรวดเร็วจึงมีความสำคัญ

● ผู้นำทางการตลาดจะสามารถทำตามความคาดหวังของลูกค้าได้ McKinsey รายงานว่าบริษัทที่มีการเติบโตได้เร็วกว่าค่าเฉลี่ย สามารถสร้างรายได้กว่า 40% จากการสื่อสารแบบ Personalization และความได้เปรียบนี้จะยิ่งทวีคูณเมื่อสามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมของลูกค้าเข้ากับเนื้อหาที่ตรงใจและถูกจังหวะ

● นักการตลาดหันมาใช้ AI เพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาด จากรายงานล่าสุดของ Salesforce นักการตลาดเกือบ 5,000 คนทั่วโลกให้ AI มีความสำคัญสูงสุด ในการเชื่อมโยงข้อมูลที่กระจัดกระจายและสร้างระบบอัตโนมัติในระดับที่กว้างขึ้น โดยที่ยังคงสามารถรักษาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูลไว้ได้

● ผู้บริโภคจะยอมจ่ายเมื่อคุณให้ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา รายงานของ Twilio Segment ในปี 2024 เกี่ยวกับ Personalization ระบุว่า แบรนด์ต่าง ๆ ใช้ข้อมูลจาก First-party และ AI เพื่อสร้างความภักดีผ่านประสบการณ์แบบเรียลไทม์ ในขณะที่คุกกี้ของบุคคลที่สาม (third-party cookies) อาจกำลังถูกลดบทบาทลง

สรุปได้ว่า Personalization นั้นไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกเสริมเท่านั้น แต่เป็นวิธีการที่สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น, มูลค่าการสั่งซื้อที่สูงขึ้น

 

การใช้ Taximail ร่วมกับ AI ช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้นอย่างไร?

ปัจจุบัน Taximail ได้พัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือ Automation ชั้นนำอย่าง n8n ได้ง่ายขึ้น โดยมี Taximail Node ซึ่งช่วยให้นักการตลาดและทีมเทคนิคสามารถสร้าง Workflow อัตโนมัติได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ทำให้สามารถใช้ AI Agent เป็นผู้ช่วยทำงานแทนคุณ วิเคราะห์ความชื่นชอบของลูกค้าแล้วส่งเนื้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อผู้รับโดยเฉพาะ หรือสร้าง Workflow อื่น ๆ ได้อีกมากมาย

Taximail node.png

 

ด้วยการเชื่อมต่อระหว่าง n8n + Taximail + AI Agent คุณสามารถออกแบบกระบวนการสื่อสารที่ฉลาดขึ้นและเป็นการสร้างประสบการณ์แบบส่วนตัวให้ลูกค้าได้มากขึ้นในไม่กี่ขั้นตอน เช่น

  • ดึงข้อมูลลูกค้าจาก CRM, Chat, หรือระบบภายใน
  • ประมวลผลด้วย AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ หรือเจตนาของลูกค้า
  • สร้างเนื้อหาอีเมลแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Email) ตามผลการวิเคราะห์
  • ส่งอีเมลออกจาก Taximail โดยอัตโนมัติในเวลาที่เหมาะสม
  • ตรวจสอบผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ และให้ AI เรียนรู้เพื่อปรับปรุงแคมเปญในรอบถัดไป

ด้วยแนวทางนี้ คุณสามารถใช้ AI Agent ร่วมกับ Taximail และโปรแกรมอื่น ๆ ได้ เช่น

เมื่อมีรายชื่อลูกค้าใหม่ในระบบ CRM AI Agent จะวิเคราะห์ข้อมูลความชื่นชอบของแต่ละคนแล้วสร้างอีเมลต้อนรับเฉพาะบุคคลเพื่อส่งผ่าน Taximail โดยอัตโนมัติทันที และยังสามารถกำหนดให้ AI Agent คิดเนื้อหาที่เป็นข้อเสนอส่วนบุคคลแล้วส่ง SMS แจ้งเตือนผ่านทาง Taximail ให้คนที่ยังไม่ได้คลิกในอีเมลได้

จะเห็นได้ว่าคุณสามารถใช้ AI Agent ได้ในทุกจุดของกระบวนการตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการสร้างข้อความหรือเลือกเวลาส่ง คุณจึงสามารถทำ Personalization ได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องทำงานซ้ำหรือใช้เวลานานเหมือนเดิม

การใช้งาน Taximail node ทำให้การสร้างระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI Agent ร่วมกับ Email Marketing เป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ช่วยให้คุณส่งอีเมลและ SMS ที่ตรงใจลูกค้าในเวลาที่ใช่ รวดเร็วกว่าเดิมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ประโยชน์สำคัญที่ธุรกิจจะได้รับ

1. เพิ่มรายได้จากฐานรายชื่อเดิม

การส่งเนื้อหาที่ตรงใจและในเวลาที่เหมาะสม จะเพิ่มโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมและการซื้อมากขึ้น  ซึ่ง McKinsey พบว่าบริษัทที่ทำ Personalization ได้ดี จะมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

2. เพิ่มความสามารถในการส่งถึงกล่องจดหมาย

การใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้รับโดยตรงสามารถช่วยลดอัตราการยกเลิกรับข่าวสารรวมทั้งการรายงานสแปม และเพิ่มการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อีเมลสามารถส่งถึง inbox ได้มากขึ้นอีกด้วย

3. ใช้ทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างคุ้มค่า

การใช้ Workflow ช่วยทำงาน ทำให้ไม่ต้องใช้คนคอยทำงานซ้ำ ๆ ทั้งการคัดข้อมูล สร้างเนื้อหา อีกทั้งการมี Taximail node ช่วยทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้ทีมพัฒนาเข้ามาช่วยงานตลอดทุกครั้ง

4. สร้างความสอดคล้องของแบรนด์ในทุกช่องทาง

การส่งอีเมล และ SMS จากฐานข้อมูลเดียวกันโดยใช้ AI Agent ช่วยสร้างเนื้อหา จะช่วยทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าเชื่อมโยงเป็นเอกภาพในทิศทางเดียวกันได้

5. รายงานผลลัพธ์ที่ชัดเจนและตรวจสอบได้

เมื่อคุณสร้าง Workflow โดยใช้ Taximail เป็น Action คุณจะสามารถตรวจสอบผลลัพธ์จากการสื่อสารได้ชัดเจน ทั้งเรื่องของการจัดส่ง รวมทั้งการเปิด การคลิก รวมทั้งยังสามารถใช้ผลลัพธ์ไปต่อยอดใน Workflow ได้อีกด้วย

 

ข้อเสียจากการส่งอีเมลด้วยตนเองโดยใช้วิธีการเดิม ๆ

1. ทุกคนได้รับเนื้อหาแบบเดียวกัน

จดหมายข่าวทั่วไปที่สามารถส่งได้ง่าย ๆ อาจถูกมองข้ามได้ง่ายเช่นกัน ปัญญาประดิษฐ์ออนไลน์ช่วยให้คุณเรียนรู้ทั้งในระดับกลุ่มและระดับบุคคล จากนั้นจึงเขียนประสบการณ์ใหม่ตามความเหมาะสม

2. การกำหนดเวลาแบบคาดเดา

การส่งจดหมายข่าวในเวลาเดิมเนื่องจากเคยส่งในเวลานั้นมาตลอดอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง การเลือกเวลาส่งโดยอิงตามเวลาของข้อมูลส่วนบุคคล จะช่วยทำให้เกิดส่วนร่วมได้มากกว่า และหากคุณสามารถเปลี่ยนช่องทางการสื่อสารมาเป็น SMS ได้แบบอัตโนมัติจะยิ่งทำให้มีผู้ตอบรับข้อเสนอของคุณมากขึ้น

3. การสื่อสารหลายช่องทางที่ไม่เชื่อมโยงกัน

เมื่อการสร้างเนื้อหาสำหรับส่งอีเมลและ SMS มีข้อมูลที่ไม่เชื่อมโยงกันจะทำให้ Journey ไม่มีความต่อเนื่อง การใช้เครื่องมือแบบ Cross-channel ของ Taximail ร่วมกับ AI Agent สามารถทำให้ทุกช่องทางสื่อสารกันด้วยข้อมูลเดียวกันได้

4. ใช้เวลาในการสร้างเนื้อหา

คุณต้องใช้เวลาในการคิดเนื้อหาหรือออกแบบอีเมลสำหรับทุกกลุ่มหรือทุกคน ซึ่งจะทำให้การสื่อสารต้องหยุดรอไม่ต่อเนื่อง การใช้ AI Agent สามารถช่วยสร้างเนื้อหาที่อยู่ภายใต้กรอบของแบรนด์ของคุณได้ถูกต้องและรวดเร็ว

5. ขาดการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

การทำอีเมลแบบ Manual มักจบที่การส่งแคมเปญให้เสร็จ มากกว่าการเรียนรู้จากผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงในรอบถัดไป คุณสามารถใช้ AI Agent เรียนรู้จากข้อมูลจากแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ทั้งอัตราการเปิด คลิก หรือพฤติกรรมหลังการรับอีเมล แล้วนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการปรับเนื้อหา เวลา และช่องทางให้เหมาะสมมากขึ้นโดยอัตโนมัติ

พัฒนาทักษะในการใช้ AI

หากคุณกำลังมองหาหลักสูตรออนไลน์ด้าน AI ที่ราคาถูก คุณจะพบว่ามีหลักสูตรให้เลือกมากมาย แต่สิ่งที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับทีมของคุณจริง ๆ คือ การลงมือปฏิบัติจริง กับแคมเปญที่ใช้ข้อมูลจริงและตัวชี้วัด (KPI) ที่ชัดเจน โดยคุณสามารถเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ และบันทึกผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ แล้วค่อยขยายสิ่งที่ได้ผลนั้นให้เติบโตขึ้น

 

 

 

สรุป

ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการสื่อสารแบบเฉพาะตัว การส่งอีเมลด้วยเนื้อหาแบบเดียวอาจได้ผลน้อยลง นักการตลาดจึงต้องสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล ส่งถึงลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความสนใจของแต่ละคน

การเชื่อมต่อ Taximail กับ AI Agent ช่วยให้คุณสร้างระบบอัตโนมัติที่ยกระดับประสิทธิภาพของอีเมลมาร์เก็ตติ้งได้อย่างแท้จริง เนื่องจาก AI Agent สามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของลูกค้า สร้างเนื้อหาที่ตรงใจ รวมถึงเลือกช่องทางสื่อสารที่เหมาะสมที่สุด ขณะที่ Taximail ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มหลักในการส่งอีเมลและ SMS พร้อมรายงานผลแบบเรียลไทม์ให้คุณติดตามได้ทันที

เริ่มต้นวันนี้ด้วยการเชื่อมต่อ Taximail กับ AI Agent ที่ n8n แล้วเปลี่ยนจากการส่งอีเมลไปสู่การส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าจดจำได้จริง

โพสต์โดย
โพสต์โดย
TEAM LEADER, DEV
เอกเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับ Taximail สามารถทำงานภายใต้ความกดดันและมักหาแนวทางการปรับปรุงระบบอยู่เสมอ เอกมีความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อพัฒนาโปรแกรม เช่น PHP, Javascript และ Python เป็นคนที่รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบการถ่ายรูป และเวลาว่างชอบออกกำลังกายด้วยการเล่นแบดมินตัน

ขยายธุรกิจของคุณด้วย
อีเมลมาร์เก็ตติ้ง

เริ่มต้นได้ฟรี