เงื่อนไขการใช้ และ นโยบายส่วนบุคคล •
ทำไมการรักษาลูกค้าถึงเป็นปัจจัยสำคัญในธุรกิจของคุณ
การรักษาลูกค้า หมายถึง การกระทำบางอย่างของคุณที่จะทำให้ลูกค้า "กลับมาหาคุณอีกในครั้งต่อ ๆ ไป” โดยการกระทำนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการทำให้ธุรกิจเติบโต ด้วยการที่ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือใช้แบรนด์ของคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งมีความสำคัญเหมือนกับการมีลูกค้าใหม่ที่คุณต้องใช้กลยุทธ์รักษาการมีส่วนร่วมของลูกค้าเอาไว้
การรักษาลูกค้านั้นต้องเริ่มต้นตั้งแต่หลังการซื้อ นักการตลาดจำเป็นต้องหาแนวทางในการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นเพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้
นี่เป็นวิธีเดียวที่คุณจะสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วยไอเดียเกี่ยวกับอีเมลมาร์เก็ตติ้ง ในการค้นหา sweet spot หรือจุดสมดุลที่พอดีกับลูกค้าของคุณ
เนื่องจากคุณรู้จักประสบการณ์ในการซื้อของลูกค้า คุณจึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการสร้างวงจรชีวิตของลูกค้าได้ ซึ่งนี่จะเป็นแนวทางในการเพิ่มมูลค่าจากลูกค้าที่จะกลับมาหาคุณอีกในครั้งต่อ ๆ ไป |
นี่เป็นสถิติจากการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการรักษาลูกค้าเอาไว้มีความสำคัญมากขนาดไหนต่อธุรกิจของคุณ
"เมื่อพูดถึงเรื่องของรายได้ การรักษาลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องและการวางแผนทางการเงินในธุรกิจของคุณ และในท้ายที่สุดการที่คุณมีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นนั้นจะทำให้คุณตัดสินใจในเรื่องของงบประมาณได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
จากการสำรวจของ Invesp พบว่ามีจำนวนบริษัทถึง 44% ยอมรับว่าพวกเขามุ่งเน้นที่การได้ลูกค้าใหม่มากกว่าการรักษาลูกค้าเก่า และมีเพียง 18% ที่บอกว่าให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าเก่าไว้ โดยเมื่อพูดถึงการรักษาลูกค้า อีเมลมาร์เก็ตติ้งถือเป็นกลยุทธ์การตลาดทางดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
สถิติจาก Statista ระบุว่ามีจำนวนผู้ใช้อีเมลทั่วโลกทั้งสิ้น 4.3 พันล้านคนในเดือนเมษายน ปี 2023 ดังนั้นอีเมลจึงเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ยังคงมีประสิทธิภาพและเป็นหลักสำคัญที่จะทำให้กลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าประสบความสำเร็จ"
ที่มา: (https://www.verticalmeasures.com/blog/lead-nurture/customer-retention-and-the-power-of-email-marketing/)
กลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าด้วยการตลาดทางอีเมลของคุณ
1 เพิ่มอัตราการเปิดให้มากขึ้น -> การจัดกลุ่มผู้รับอีเมล (Segment)
จัดการลูกค้าให้อยู่ในจุดที่สมควร หมายถึง การส่งข้อความที่ถูกต้องซึ่งลูกค้าต้องการที่จะได้รับข่าวสารนั้น ๆ จากคุณ โดยใช้การจัดกลุ่มผู้รับอีเมลเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มอัตราการเปิด เพราะคุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ในช่วงก่อนหน้าของลูกค้าแต่ละราย
การรักษาลูกค้าเอาไว้ไม่ใช่สิ่งที่คุณทำเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วจะเสร็จสิ้น แต่เมื่อคุณส่งอีเมลไปหาลูกค้าก็ควรที่จะทำให้พวกเขามีส่วนร่วมกับอีเมลของคุณ นั่นหมายความว่าคุณต้องการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับคุณตลอดเวลา ดังนั้นคุณจะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากรู้อยากติดตาม, ทำให้รู้สึกตื่นเต้น นั่นจะทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่มีความภักดีต่อแบรนด์ของคุณ (Brand loyalist)
ที่มา: https://www.canva.com
2 ใช้วิธีการแจ้งเตือน -> ส่งการแจ้งเตือนที่เป็นมิตร
การแจ้งเตือนที่เป็นมิตรเหมือนกับการสะกิดเพื่อบอกให้ลูกค้าของคุณรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่เพื่อให้บริการพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์ของคุณต้องมีการสมัครสมาชิกก่อนการใช้งาน
ทั้งนี้คุณสามารถแจ้งเตือนเมื่อบัญชีของลูกค้ากำลังจะหมดอายุและเป็นการแจ้งให้ทราบหากพวกเขายังต้องการใช้บริการต่อไป ซึ่งคุณควรใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติให้มาจัดการตรงจุดนี้
3 สร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นลูกค้าของคุณ -> เพิ่มความภักดีของลูกค้า
คุณสามารถมอบสิ่งพิเศษให้กับลูกค้าประจำในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น วันเกิดหรือวันหยุด โดยไม่ได้จำกัดแค่โอกาศที่กล่าวมาเท่านั้นแต่เป็นการทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึกว่ามีค่าและเป็นบุคคลพิเศษ ซึ่งคุณสามารถใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับส่งอีเมลวันเกิด, วันคริสมาส, วันวาเลนไทน์ และอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ที่มา : https://artplusmarketing.com
4 ใช้การรีวิวช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ -> รักษาลูกค้า
การรับรองจากลูกค้าและการรีวิวเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถโน้มน้าวให้ลูกค้าของคุณเข้าสู่ธุรกิจของคุณได้ โดยการให้ลูกค้าฟังเรื่องราวเกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ของคุณว่ามีประโยชน์มากแค่ไหนสำหรับผู้ที่มารีวิว
ที่มา : https://emaildesign.beefree.io
5 สร้างอีเมลส่วนบุคคล -> ส่งอีเมลจากบริษัทของคุณ
คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์ในการใช้อีเมลส่วนบุคคลโดยอาจได้ข้อมูลมาจากทีมขายหรือทีมซัพพอร์ตของคุณและทำการติดต่อกับลูกค้าด้วยอีเมลที่ใช้ลายเซ็นส่วนตัวจากทีมของคุณเอง นี่เป็นส่วนที่จะให้ประโยชน์ในแง่ของความรู้สึก โดยคุณอาจส่งอีเมลไปพูดคุยแบบง่าย ๆ หรือทักทายลูกค้าและดูการโต้ตอบจากพวกเค้า
เชื่อมต่อกับความรู้สึกของลูกค้า ......
อีเมลเพื่อรักษาลูกค้านั้นไม่ใช่อีเมลสำหรับการขาย แต่เป็นอีเมลที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและเกิดความประทับใจ
อาจจะดูเหมือนอีเมลสำหรับขายแต่ความจริงนั้นไม่ใช่...
ทั้งนี้ลูกค้าทุกคนอาจมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน คุณจึงควรทำการทดสอบอีเมลหลายรูปแบบที่มีความแตกต่างเพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าอีเมลรูปแบบไหนที่จะเหมาะสมกับลูกค้าของคุณ
คุณอาจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้อีเมลที่ถูกต้อง แต่นั่นจะทำให้เกิดความคุ้มค่าเมื่อคุณสามารถรักษาลูกค้าให้อยู่กับบริษัทของคุณ
อีเมลรูปแบบนี้จะส่งผลดีกับคุณในระยะยาว หากคุณเริ่มสร้างความสัมพันธ์ไว้อย่างถูกต้องจะส่งผลให้กลยุทธ์การตลาดทางอีเมลของคุณประสบความสำเร็จ